ข้อควรระวังในการเลือกซื้อฟิล์มยืด ให้ได้มาตรฐาน ไม่เสี่ยงต่อสินค้าเสียหาย
ความสำคัญของฟิล์มยืด ในธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์
ฟิล์มยืด (Stretch Film) เป็นวัสดุสำคัญที่ช่วยปกป้องสินค้าของคุณระหว่างการขนส่ง การจัดเก็บ และการขนย้าย แต่หลายธุรกิจมักมองข้ามความสำคัญในการเลือกฟิล์มยืดที่มีคุณภาพ การเลือกฟิล์มที่ไม่ได้มาตรฐานอาจนำไปสู่ความเสียหายของสินค้า เพิ่มต้นทุนโดยไม่จำเป็น และสร้างปัญหาในระยะยาว บทความนี้จะแนะนำข้อควรระวังสำคัญในการเลือกซื้อฟิล์มยืดให้ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อความเสียหายของสินค้าอันมีค่าของคุณ
5 ข้อควรระวังในการเลือกซื้อฟิล์มยืดคุณภาพสูง
- ความหนาและความแข็งแรงของฟิล์มยืด
ฟิล์มยืดมีหลายความหนาให้เลือก โดยทั่วไปวัดเป็นไมครอน (Micron) ข้อควรระวัง คือ อย่าเลือกเพียงเพราะราคาถูก ฟิล์มที่บางเกินไปอาจไม่สามารถรับน้ำหนักหรือปกป้องสินค้าได้อย่างเพียงพอ ในขณะที่ฟิล์มที่หนาเกินความจำเป็นก็อาจทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ
ควรพิจารณาประเภทของสินค้าที่ต้องการห่อหุ้ม:- สินค้าน้ำหนักเบาถึงปานกลาง: ฟิล์มยืดความหนา 15-17 ไมครอน
- สินค้าน้ำหนักปานกลางถึงหนัก: ฟิล์มยืดความหนา 20-23 ไมครอน
- สินค้าน้ำหนักมากหรือต้องการความปลอดภัยสูง: ฟิล์มยืดความหนา 25 ไมครอนขึ้นไป
- คุณสมบัติในการยืด (Stretch Ratio)
ข้อควรระวัง อีกประการคือ การไม่ให้ความสำคัญกับคุณสมบัติในการยืดตัว ฟิล์มยืดคุณภาพดีควรสามารถยืดตัวได้อย่างน้อย 150-300% โดยไม่ขาดหรือเสียรูปทรง คุณสมบัตินี้ช่วยให้ฟิล์มสามารถปกป้องสินค้าได้ดีขึ้น และประหยัดปริมาณการใช้ฟิล์มในระยะยาว
เมื่อทดสอบฟิล์มยืด ควรสังเกตว่า:
- ฟิล์มยืดตัวได้ดีเพียงใด
- หลังการยืดตัว ฟิล์มยังคงความแข็งแรงหรือไม่
- ความสามารถในการกลับสู่รูปเดิมหลังการยืดตัว (Memory Effect)
- ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและการฉีกขาด
สินค้าระหว่างการขนส่งมักเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ทั้งแสงแดด ความชื้น และการกระแทก ข้อควรระวัง คือ การเลือกฟิล์มยืดที่ไม่ทนทานต่อปัจจัยเหล่านี้ ฟิล์มยืดคุณภาพดีควรมี:
- ความทนทานต่อรังสี UV (สำหรับการขนส่งกลางแจ้ง)
- ความต้านทานต่อการฉีกขาด
- ความทนทานต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
- คุณสมบัติการต้านการเจาะทะลุ
- ความโปร่งใสและการมองเห็น
ฟิล์มยืดคุณภาพดีควรมีความโปร่งใสสูง เพื่อให้สามารถตรวจสอบสินค้าได้โดยไม่ต้องแกะหีบห่อ ข้อควรระวัง คือ ฟิล์มที่มีความขุ่นหรือไม่โปร่งใสอาจเป็นสัญญาณของวัสดุคุณภาพต่ำ และอาจทำให้เกิดปัญหาในการตรวจสอบสินค้าหรือสแกนบาร์โค้ด
นอกจากนี้ ความโปร่งใสยังช่วยในเรื่อง:
- การตรวจสอบความเสียหายของสินค้าได้อย่างรวดเร็ว
- การระบุสินค้าโดยไม่ต้องแกะหีบห่อ
- การสแกนบาร์โค้ดโดยตรงผ่านฟิล์ม
- แหล่งที่มาและมาตรฐานการผลิต
ข้อควรระวังสำคัญ อีกประการคือ การไม่ตรวจสอบแหล่งที่มาและมาตรฐานการผลิตของฟิล์มยืด ควรเลือกซื้อจากผู้จำหน่ายที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการรับรอง เช่น ISO 9001 หรือมาตรฐานอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ฟิล์มยืดคุณภาพต่ำอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายหรือมีความไม่สม่ำเสมอในการผลิต ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพในการปกป้องสินค้า
การเลือกฟิล์มยืดคุณภาพดีอาจดูเหมือนเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงในตอนแรก แต่จะช่วยประหยัดต้นทุนในระยะยาวจากการลดความเสียหายของสินค้า ลดการสูญเสียจากการขนส่ง และเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า
สนใจเครื่องแพ็คกล่อง ฟิล์มยืด ฟิล์มยืดพันพาเลท พร้อมบริการติดตั้ง
ติดต่อ บริษัท ทีเอ็นซี แพ็คกิ้ง จำกัด
08-9445-4013, 063-892-2898
หรือเพิ่มเพื่อน Line อัตโนมัติ คลิกเลย