สายรัด PP และ PET ต่างกันอย่างไร? เลือกใช้ให้เหมาะกับสินค้าของคุณ

สายรัด PP และ PET ความแตกต่างที่คุณควรรู้

สายรัด PP และ PET ต่างกันอย่างไร? เลือกใช้ให้เหมาะกับสินค้าของคุณ

ในโลกของการบรรจุภัณฑ์และการขนส่งสินค้า การเลือกสายรัดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของสินค้าและต้นทุนในการดำเนินงาน วันนี้เราจะมาเจาะลึกเปรียบเทียบ สายรัด PP และ สายรัด PET ให้คุณเข้าใจความแตกต่างและเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง

สายรัด PP คืออะไร?

สายรัด PP (Polypropylene Strapping) เป็นสายรัดที่ผลิตจากวัสดุโพลีโพรพิลีน มีลักษณะเป็นแถบพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นและน้ำหนักเบา ราคาประหยัดกว่าสายรัดประเภทอื่น จึงเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ

คุณสมบัติเด่นของสายรัด PP:

  • ความยืดหยุ่น: ยืดได้ประมาณ 15-20% ช่วยลดแรงกระแทกได้ดี
  • น้ำหนักเบา: เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการควบคุมน้ำหนักบรรจุภัณฑ์
  • ราคาประหยัด: ต้นทุนต่ำกว่าสายรัดประเภทอื่น
  • ป้องกันสนิม: ไม่เป็นสนิม ไม่ทำให้สินค้าเสียหาย
  • ใช้งานง่าย: สามารถใช้กับเครื่องรัดแบบมือและแบบอัตโนมัติได้

สายรัด PET คืออะไร?

สายรัด PET (Polyethylene Terephthalate Strapping) ผลิตจากวัสดุโพลีเอทิลีน เทเรฟทาเลต มีความแข็งแรงและทนทานสูงกว่าสายรัด PP อย่างเห็นได้ชัด แต่ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงในการรัด

คุณสมบัติเด่นของสายรัด PET:

  • ความแข็งแรงสูง: ทนแรงดึงได้มากกว่าสายรัด PP ถึง 2-3 เท่า
  • ยืดหยุ่นน้อย: ยืดได้เพียง 1-2% ให้การรัดที่แน่นและคงที่
  • ทนอุณหภูมิ: ทนความร้อนและความเย็นได้ดีกว่า
  • ปลอดภัย: ไม่มีขอบคม ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน
  • รีไซเคิลได้: สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

เปรียบเทียบสายรัด PP กับ PET

คุณสมบัติ

สายรัด PP

สายรัด PET

ความแข็งแรง

ปานกลาง

สูง

ความยืดหยุ่น

สูง (15-20%)

ต่ำ (1-2%)

ราคา

ประหยัด

สูงกว่า

การใช้งาน

สินค้าทั่วไป

สินค้าหนัก/ขนส่งไกล

ความทนทาน

ดี

ดีเยี่ยม

ความปลอดภัย

ปานกลาง

สูง

 

วิธีเลือกสายรัดให้เหมาะกับสินค้าแต่ละประเภท

เลือกสายรัด PP เมื่อไหร่?

สายรัด PP เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคุ้มค่าและมีข้อกำหนดไม่เข้มงวดมาก:

  1. สินค้าน้ำหนักเบาถึงปานกลาง (ไม่เกิน 50 กิโลกรัม)
  2. การขนส่งระยะใกล้ ภายในประเทศหรือในเมือง
  3. สินค้าที่ไม่แข็งแรงมาก เช่น กล่องกระดาษ สินค้าเสื้อผ้า
  4. งานที่ต้องการลดต้นทุน และไม่มีความเสี่ยงสูง
  5. การใช้งานในอุตสาหกรรมอาหาร ที่ต้องการความปลอดภัย

เลือกสายรัด PET เมื่อไหร่?

สายรัด PET เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงและความปลอดภัยสูง:

  1. สินค้าน้ำหนัก (มากกว่า 50 กิโลกรัม)
  2. การขนส่งระยะไกล หรือส่งออกต่างประเทศ
  3. สินค้าที่มีมูลค่าสูง และต้องการความปลอดภัยสูงสุด
  4. วัสดุก่อสร้าง เหล็ก ไม้ หิน อิฐ
  5. เครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม
  6. การขนส่งทางเรือหรือเครื่องบิน

เคล็ดลับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับสายรัด PP:

  • ใช้เครื่องมือรัดที่เหมาะสม ไม่รัดแน่นเกินไป
  • เก็บไว้ในที่ร่มแสงแดด เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ
  • ตรวจสอบความแข็งแรงก่อนใช้งานทุกครั้ง

สำหรับสายรัด PET:

  • สามารถรัดแน่นได้มากกว่าโดยไม่กังวลเรื่องการขาด
  • เหมาะสำหรับใช้กับเครื่องมือรัดแบบอัตโนมัติ
  • ให้ผลการรัดที่สม่ำเสมอและเชื่อถือได้

การเลือกระหว่าง สายรัด PP และ สายรัด PET ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแต่ละงาน หากคุณยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกแบบไหน ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาฟรี

ติดต่อเราวันนี้เพื่อ:

  • รับคำแนะนำการเลือกสายรัดที่เหมาะสม
  • สอบถามราคาพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่
  • ขอใบเสนอราคาฟรี
  • นัดหมายเข้าดูสินค้าที่โรงงาน

อย่ารอให้สินค้าของคุณเสี่ยงเสียหายจากการเลือกสายรัดที่ไม่เหมาะสม เริ่มต้นการปกป้องสินค้าของคุณด้วยสายรัด สายรัด PP และ สายรัด PET


 

สนใจ สายรัด PP และ สายรัด PET

ติดต่อ บริษัท ทีเอ็นซี แพ็คกิ้ง จำกัด

08-9445-4013063-892-2898

หรือเพิ่มเพื่อน Line อัตโนมัติ คลิกเลย